นางเครือวัน เกกะสุด อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97 หมู่ที่ 10 ตำบลบางกะจะ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลท่าเรือท่าแฉลบ เปิดเผยว่า ปกติแล้วสามีของตนเองจะออกเรือไปดักปลาดักปูในทะเล แต่ตนเองอยู่บ้านเฉยๆ จึงคิดหันมารับซื้อกุ้งจากคนในหมู่บ้านเดียวกัน เพื่อนำมาทำเป็นกุ้งแห้งตากขาย เพราะตนเองเห็นว่ากุ้งแห้งนั้นมีราคาแพงจึงคิดว่าน่าจะได้กำไรดี
นางเครือวันเล่าต่ออีกว่า ตอนแรกตนเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำเป็นอาชีพแค่ลองทำดูก่อน แต่พอทำแล้วก็นำไปให้ญาติๆ ชิมก็พอใจในรสชาติที่ตนเองทำ เพราะรสชาติของกุ้งแห้งที่ตนเองทำนั้นมีรสชาติไม่เค็มมากนัก ตนเองจึงหันมารับซื้อกุ้ง และทำกุ้งแห้งตากขายเป็นอาชีพหลักจนถึงปัจจุบัน
สำหรับกุ้งที่ตนเองรับซื้อมานั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นกุ้งนา เพราะกุ้งนาจะให้ความกรอบ และดีกว่ากุ้งชนิดอื่นๆ หากนำมาทำเป็นกุ้งแห้งก็จะได้ผลกำไรดีกว่า ซึ่งส่วนมากกุ้งแห้งที่ทำจะขายให้แก่คนในหมู่บ้าน หรือขายให้แก่ญาติๆ ที่มาสั่งเท่านั้นส่วนเรื่องของราคากุ้งแห้งขึ้นอยู่ที่ขนาดของกุ้งแต่ละไซส์ หากไซส์ใหญ่ก็จะตกอยู่ที่กิโลกรัมละ 1,000 บาท 900 บาท 800 บาท และ 700 บาท ลงมาตามขนาดของกุ้ง
นางเครือวันกล่าวว่า ขณะนี้ตนมีรายได้เดือนหนึ่งประมาณ 15,000-20,000 บาท ทั้งนี้ซึ่งเป็นรายได้ที่สามารถนำมาจุนเจือเลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดี แต่ขณะนี้กุ้งเริ่มหายากขึ้น โดยแต่ละอาทิตย์ตนเองจะหาซื้อกุ้ง และนำมาทำเป็นกุ้งแห้งตากขายได้เพียงแค่อาทิตย์ละ 100 กิโลกรัมเท่านั้น ทำให้ทุกวันนี้ กุ้งแห้งมีราคาแพงมาก และเป็นที่ต้องการสูง
Credit
ขอขอบคุณ http://www.manager.co.th ที่เอื้อเฟื้อภาพและข้อมูล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น